ผักบุ้งจีน "งามเจริญ" เป็นพันธุ์ใหม่จากบริษัท พัลซาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากเกษตรกร สายพันธุ์นี้มีลักษณะใบยาวเรียว ลำต้นตรง กรอบ ไม่เหนียว ไม่มีหนาม และไม่มีแขนง ให้ผลผลิตสูงและน้ำหนักดี ผักบุ้งจีนเป็นผักที่นิยมบริโภคในปัจจุบันเนื่องจากเป็นพืชอายุสั้นที่สามารถเก็บเกี่ยวได้เร็ว ปัจจุบันเรียกกันว่า "ผักบุ้งใบไผ่" ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการปลูกเพื่อการค้า

         ผักบุ้งจีนใช้เวลาเพียง 48 ชั่วโมงในการงอก ในระยะการเจริญเติบโตเริ่มแรกลำต้นจะตั้งตรง หลังจาก 5-7 วันจะมีใบเลี้ยงคู่ 2 ใบที่ปลายใบเป็นแฉกไม่เหมือนกับใบจริง ในช่วงสองสัปดาห์แรก ลำต้นจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ประมาณ 30-45 วัน ผักบุ้งจะมีการเจริญเติบโตจะเปลี่ยนไป ต้นจะยืดและต้นแตกแขนง

          ผักบุ้งจีนสามารถปลูกได้ทั้งบนบกและในน้ำ และสามารถปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิด ดินที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกผักบุ้งจีนเพื่อการบริโภคสดคือดินร่วนหรือดินร่วนทราย โดยทั่วไปจะหว่านเมล็ดโดยตรงลงบนแปลงปลูก โดยใช้เมล็ดประมาณ 13-15 กิโลกรัมต่อไร่ (ประมาณ 1,600 ตารางเมตร) ดินควรถูกไถลึกประมาณ 30-40 เซนติเมตรและปล่อยให้แห้งเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ก่อนการไถพรวน ปรับค่าพีเอชด้วย Energa ซึ่งเป็นสารปรับสภาพดินที่เป็นกรด เพื่อให้พืชเติบโตดีและแข็งแรงในดินที่เหมาะสม ค่าพีเอชของดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผักบุ้งจีนคือประมาณ 5-7 อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตคือมากกว่า 25°C และพืชต้องการแสงแดดเต็มที่ แปลงปลูกควรยกสูงประมาณ 30 เซนติเมตรและกว้าง 120 เซนติเมตร พืชชนิดนี้เติบโตได้ดีในประเทศไทย

วิธีการปลูก

• การรดน้ำ: รดน้ำแปลงปลูกให้ทั่ว จากนั้นโปรยเมล็ดผักบุ้งจีนให้ทั่วแปลง
• การคลุมแปลง: คลุมแปลงด้วยฟางบางๆ แล้วรดน้ำอีกครั้ง ปกติจะทำในช่วงเย็น
• การรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ: รดน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 1-2 ครั้ง หลีกเลี่ยงการท่วมขัง หยุดรดน้ำในช่วงฝนตก 
  (อย่าให้แปลงปลูกแห้ง เพราะจะทำให้การเจริญเติบโตชะงักและทำให้ลำต้นแข็งและมีเส้นใยซึ่งไม่พึงประสงค์)

• การใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 ในอัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งเป็น 2 ครั้ง: ครั้งแรก 7 วันหลังการหว่านเมล็ด และครั้งที่สอง 15 วันหลังการหว่านเมล็ด 
• การเก็บเกี่ยว: หลังจาก 20-25 วันนับจากการหว่านเมล็ด ให้ถอนผักบุ้งจีนออกจากแปลงรวมถึงรากด้วย ทำความสะอาดรากให้เรียบร้อย และตัดใบและแขนงที่โคนต้นออก